คานาเล่จากของเหลือทิ้งสู่ขนมยอดฮิต

 

 

 

คานาเล่ ( Canelé ) คืออะไร ?

 

คานาเล่ ( Canelé ) มีชื่อเต็มว่า คานาเล่ แห่ง บอร์กโดซ์ ( Canelé de Bordeaux ) เป็นขนมประจำเมืองบอร์กโดซ์ ( Bordeaux ) ตามชื่อเต็มเลยค่ะ โดยเมือง บอร์กโดซ์อยู่ในประเทศฝรั่งเศสเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องไร่องุ่น และการผลิตไวน์ ความน่าสนใจคือ ขนมชนิดนี้เกิดขึ้นจาก ขยะอาหาร ( Food Waste ) ของกระบวนการผลิต ไวน์บอร์กโดซ์ในสมัยก่อน ซึ่งในสมัยก่อนใช้ไข่ขาว ช่วยในการตกตะกอนไวน์ ส่วนไข่แดงกลายเป็น ส่วนเกินเหลือทิ้ง ทางผู้หมักไวน์จึงได้นำไข่แดงไปบริจาค ให้แม่ชีในคอนแวนต์ภายในเมือง และขนมชนิดนี้ ก็ถือกำเนิดขึ้น ในคอนแวนต์ปีคริสต์ศตวรรษที่ 15 หรืออาจเป็นคริสต์ศตวรรษที่ 18 โดยมี ไข่แดง จากการเหลือทิ้ง เป็นองค์ประกอบสำคัญ

 

ดังนั้น ส่วนผสมของขนมนี้ จึงใช้ ไข่แดง นำมาผสมกับนม แป้งสาลี น้ำตาล วนิลาและเหล้ารัม ทำให้มีกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นของเจ้าขนมชนิดนี้ แล้วใส่ในพิมพ์ทองแดง นำไปอบเพื่อให้ผิวด้านนอกสุกกรอบจนเกือบไหม้ ทำให้คานาเล่มีรูปทรง เฉพาะตัวมาตั้งแต่นั้น แน่นอนว่าเป็นขนมอบ ที่ใช้เวลามากพอสมควร จึงให้สัมผัสแบบ กรอบนอก นุ่มใน ก่อนจะนำไปแจกจ่ายให้คนจน หรือขายเพื่อนำเงินไปบริจาคมูลนิธิ จนเข้าสู่ศตวรรษที่ 20 คานาเล่ ( Canelé ) จึงกลายมาเป็นขนมขึ้นชื่อ ที่ทำโดยช่างทำขนมมืออาชีพสืบต่อกันมา จึงเป็นขนมที่หาทานได้ง่าย ในประเทศฝรั่งเศษ

 

 

การเดินทางของ คานาเล่ ( Canelé )

 

คานาเล่ ( Canelé ) เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย ในประเทศฝรั่งเศษ มานานนับศตวรรษ แต่ที่สร้างความตื่นเต้น ให้กับวงการคานาเล่ ( Canelé ) ก็คือในยุคหลังที่บรรดาเชฟ ชาวฝรั่งเศส สร้างสรรค์รสชาติใหม่ให้ คานาเล่ ( Canelé ) ทั้ง ลาดูเร ฟูชอง และปิแอร์ แอร์เม่ ( Pierre Hermé ) เช่นเดียวกับประเทศญี่ปุ่น ที่รับเอาวัฒนธรรมขนมฝรั่งเศส ไปค่อนข้างมาก และเกิดเป็นร้าน เฉพาะทางในชื่อว่า CANELÉ du JAPON ร้านดังในโอซาก้า ที่ขายเฉพาะคานาเล่ ( Canelé ) จนเกิดเป็นคลื่นความเปลี่ยนแปลง ในวงการ คานาเล่ ( Canelé ) เกิดรสชาติสุดสร้างสรรค์ ที่มีมากกว่าเพียงวานิลลาเช่น ข้าวโพดย่าง ซากุระ ยุซุ เกาลัด หรือฟักทอง เป็นต้น ทำให้ความนิยมการทาน คานาเล่ ( Canelé ) ในญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นมากอย่างล้นหลาม

 

สำหรับบ้านเราก็ได้เริ่ม มีร้านเฉพาะทาง เรื่อง คานาเล่ ( Canelé ) ขึ้นมาแล้ว แต่รสชาติยังไม่ได้หลากหลายมากนัก ส่วนใหญ่เป็นรสออริจินอล แต่ก็มีรสชาติอย่าง ช็อกโกแลต ชาเขียว และชาเอิร์ลเกรย์ ที่เป็นพื้นฐาน ทานง่าย เหมาะสำกรับคนที่ยังไม่เคยทาน แล้วเริ่มต้นอยากจะ ลิ้มลองรสชาติของ คานาเล่ ( Canelé ) ออกมาให้ได้หาทานบ้าง

 

 

คานาเล่ ( Canelé ) ที่ดี จะต้อง

 

- เปลือกนอกกรอบ บาง  ข้างในนุ่ม ชุ่มฉ่ำ

- สำหรับรสดั้งเดิม ต้องมีกลิ่นหอมวานิลลาและรัม ที่เป็นเอกลักษณ์

- ร้านไหน เนื้อเหนียว เปลือกไม่กรอบ ไม่มีกลิ่นวานิลลาและรัม ให้ตั้งสมมติฐาน เรื่องการเอาของเดิมมาอบขาย ในแง่ลบ หรือไม่ก็อาจเป็นสูตรพิเศษที่ร้าน เช่นการใช้น้ำตาลทรายแดง ทำให้เปลือกนิ่ม ไม่กรอบเท่าคานาเล่ ( Canelé ) ที่ใช้น้ำตาลทรายธรรมดา ในแง่ดี เป็นต้น

 

 

แต่ถ้าหากเพื่อน ๆ ที่อยากลิ้มลองรสชาติแท้ ๆ ของ คานาเล่ ( Canelé ) โดยไม่อยากเสี่ยง เรามีร้านที่รับรองว่าเพื่อน ๆ ลองแล้วจะกลายเป็นสาวกของเจ้า คานาเล่ ( Canelé ) อีกคนแน่นอนค่ะ

 

 

1 Bakery Bar Sukhumvit 18

2 Bottomless ( Bottomless ) Flagship store

3 Cafe Mademoiselle alliance francaise

4 Duck You Caferista ( Duck You Cafe Rista )

5 D'ARK Emquartier

6 Entree Coffee & Brunch Silom soi 8

7 ฟอเรสท์เบค ( Forest Bake BKK ) สุขุมวิท 22

8 James Boulangerie

9 KOF Sathorn

10 Eric Kayser Emquartier

11 Mini One Icon Siam

12 Piece of Canele

13 Yellow Spoon Ekkamai

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ชีสเค้กหน้าไหม้ ขนมสุดฮิตที่รสชาติสวนทางกับหน้าตา

ชูครีม กับ เอแคลร์ และความเข้าใจผิด