ขนมปัง ยอดนิยม ของ คนทั้งโลก มีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย

เหล่าสาวกคาร์โบไฮเดรตอย่างเรา ๆ ก็คงเคยผ่านหู ผ่านตา และผ่านปาก กันมาบ้าง กับ ก้อนคาร์บสุดอร่อย ที่มีชื่อว่า ขนมปัง กันมาอย่างหลากหลาย เพราะว่า ถ้าเข้าร้านอาหารต่างสัญชาติ ก็มีตะกร้าขนมปังต่างกันไป วันนี้ เราจะไปดูเจ้า ขนมปัง ต่าง ๆ กันเลย

 

1. Tortilla

เราเชื่อว่าเมื่อนึกถึงอาหารเม็กซิกัน หลาย ๆ คนก็ต้องนึกถึงขนมปังชนิดนี้ ‘ตอร์ติญา’ เป็นแฟลตเบรดชนิดหนึ่ง แต่ว่ามีลักษณะแบนเป็นแผ่นบางกว่า นั่นเพราะไม่มีสารที่ทำให้ขึ้นฟูเลย ตอร์ติญาแบ่งเป็นสองชนิดหลัก นั่นคือ ตอร์ติญาที่ทำจากข้าวโพดบดละเอียด (corn tortilla) และที่ทำจากแป้งสาลี (flour tortilla) นอกจากจะนำมาห่ออาหารอย่างเช่น ทาโก (taco) ที่วางเครื่องอย่างเนื้อสัตว์และผักลงบนตอร์ติญาแผ่นเล็ก เบอร์ริโต (burrito) ที่นำตอร์ติญาแผ่นใหญ่ ๆ มาห่อม้วนเนื้อสัตว์และถั่วบดแล้ว เราก็ยังสามารถพบตอร์ติญาข้าวโพด ในรูปแบบที่ทอดกรอบตัดเป็นชิ้นสามเหลี่ยมเล็กเรียกว่า ตอร์ติญาชิป (tortilla chip) ที่เอามาทานเล่นกับซัลซา (salsa, น้ำจิ้มมะเขือเทศสับปรุงรสผสมน้ำมะนาว) หรือว่า กัวคาโมเล (guacamole, อะโวคาโดบดปรุงรส) หรือเป็นส่วนประกอบของอาหารทานเล่นอย่างนาโชส (nachos) ก็ได้เช่นกัน

 

2. Pita

เรามักได้เห็น ขนมปังพิตา หรือว่า แป้งพิตาในร้านอาหาร ตามโซนตะวันออกกลาง อาทิ ตุรกี เลบานอน และแถบเมดิเตอร์เรเนียน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในร้านอาหารกรีก ‘พิตา’ เป็นหนึ่งในขนมปังตระกูลแฟลตเบรด (flatbread ที่แปลตรงตัวว่า ขนมปังแบน) ที่เป็นทรงกลม และขึ้นฟูเพียงเล็กน้อย เอกลักษณ์ของพิตา นั้นคือ ช่องตรงกลางที่เกิดจากการอบด้วยอุณหภูมิสูง ทำให้แป้งพองขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อแบนลงแล้วหลังจากปล่อยให้เย็นจึงเกิดเป็นช่องคล้ายกระเป๋า สามารถนำมาใส่ไส้ต่าง ๆ สามารถทำเป็นแซนด์วิช หรือทานเป็นขนมปังคู่กับเนื้อ หรือว่าซอสก็ได้ ร้านอาหารกรีก นั้นมักเสิร์ฟพิตากับดิปต่าง ๆ อาทิ ฮุมมุส (hummus, ถั่วลูกไก่บด) และบาบากานูช (babaganoush, มะเขือยาวบด) เป็นอาหารกินเล่น

 

3. Bagel

เบเกิล นั้นไม่ใช่โดนัท แต่มีรูปทรงกลม และมีรูตรงกลางคล้ายโดนัท แม้ว่า ‘เบเกิล’ จะได้รับความนิยมอย่างมาก ๆ ในฝั่งอเมริกา แต่ที่จริงแล้ว ก็มีต้นกำเนิดจากชุมชนชาวยิวในประเทศโปแลนด์ และได้รับการเผยแพร่ไปยังประเทศอื่นๆ โดยที่กลุ่มชาวยิวเช่นกัน จุดเด่นของเบเกิลอ นั้นยู่ที่เนื้อขนมปังที่แน่นและค่อนข้างเหนียว โดยเป็นผลมาจากการต้มเบเกิลก่อนนำเข้าไปอบ ทำให้เกิดเปลือกนอกที่ทำให้ตัวขนมปังไม่ฟูขึ้นในขณะที่กำลังอบ เบเกิลมักถูกหั่นตามขวางและกินแบบแซนด์วิช โดยไส้ยอดนิยมคือ lox หรือปลาแซลมอนหมักกับครีมชีส

 

4. Sourdough

จริง ๆ ก็เพิ่งจะมาฮิตในเมืองไทยได้ไม่กี่ปี แต่แท้ที่จริงแล้ว ‘ซาวร์โด’ นั้นเป็นขนมปังที่มีวิธีการทำแบบโบราณ โดยสมัยก่อนที่จะมียีสต์แห้งหรือผงฟูใช้อย่างปัจจุบัน หลาย ๆ คน ก็คงเคยได้ยินชื่อขนมปังซาวร์โด ในฐานะขนมปังอาร์ทิซาน (artisan bread) หรือขนมปังเพื่อสุขภาพ เพราะว่า การทำซาวร์โดนั้นต้องใช้สิ่งที่เรียกว่าหัวเชื้อ ที่เกิดจากการหมักเลี้ยงจุลินทรีย์และยีสต์ โดยเกิดขึ้นตามธรรมชาติเพื่อเป็นตัวทำให้ขนมปังขึ้นฟูนั่นเอง จุดเด่นของขนมปังแบบนี้ ก็คือฟองที่ไม่สม่ำเสมอในเนื้อขนมปัง รสชาติที่จะติดเปรี้ยวเล็กน้อย และกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละเจ้า เนื่องจากการเลี้ยงหัวเชื้อด้วยอาหารที่ต่างกัน ขนมปังซาวร์โดอาจทำจากแป้งสาลีขัดขาว แป้งไม่ขัดสี ตลอดจนแป้งไรย์ซึ่งมักใช้หัวเชื้อซาวร์โดในการอบ เพราะยีสต์ปกติไม่สามารถทำให้ขึ้นฟูได้เท่า

 

 

 

5. Focaccia

หลาย ๆ คนติดใจ กับเจ้าขนมปังนุ่มหอมที่มักเสิร์ฟมาก่อนอาหารในตะกร้าเวลาไปร้านอาหารอิตาลี ด้วยที่ความนุ่มชุ่มฉ่ำกว่าเซียบัตตาด้านบน และด้วยความหอมจากน้ำมันมะกอก และส่วนผสมเพิ่มเติมอย่างอื่นที่มักใส่เพิ่มกลิ่นและเติมรสชาติ อาทิ มะกอกดำ หัวหอม ชีส มะเขือเทศตากแห้ง หรือว่าสมุนไพรอย่างโรสแมรี หน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์ของ ‘โฟกัชชา’ (หรือว่าที่หลายคนเรียกว่า ‘ฟอกกาเซีย’) คือ มีรูปร่างแบน มีรอยบุ๋มด้านบนที่ทำให้ขนมปังรับน้ำมันมะกอกที่ได้ราดลงไปก่อนอบ

 

6. Ciabatta

เรียกได้ว่าเป็นบาแกตต์ของชาวอิตาลีก็ไม่ผิดนัก ‘ชาบัตตา’ (หรือที่คนไทยและฝรั่งหลาย ๆ คนเรียกทับศัพท์ว่า ‘เซียบัตตา’) เกิดขึ้นมาเพื่อแข่งขันกับบาแกตต์ โดยในยุคที่แซนด์วิชขนมปังฝรั่งเศสเฟื่องฟูในอิตาลี จนเหล่านักอบขนมปังเจ้าถิ่นไม่สามารถทนได้อีกต่อไป จนต้องสร้างขนมปังที่มีส่วนผสมหลัก ก็คือ แป้งสาลี น้ำ ยีสต์ และเกลือเหมือนกันขึ้นมาเป็นตัวเลือกให้ชาวอิตาลีทำแซนด์วิชบ้าง มีรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่แบนและกว้างกว่า แบบที่ผู้คิดค้นเห็นว่าเหมือนรองเท้าของภรรยาเขา (เลยตั้งชื่อว่า ciabatta ซึ่งแปลว่า ‘รองเท้า’ ในภาษาอิตาลี) เนื้อของเซียบัตตาจะมีความชื้นกว่าบาแกตต์ นุ่มกว่า

 

 7. Croissant

โดยชื่อของ ‘ครัวซองต์’ มาจากรูปทรง ที่คล้ายพระจันทร์เสี้ยวของมันนั่นเอง (croissant ภาษาฝรั่งเศสแปลว่าจันทร์เสี้ยว) ถือเป็นอีกหนึ่งขนมปังยอดนิยมจากบ้านฝรั่งเศส โดยเนื้อของขนมจันทร์เสี้ยวนี้มีความแตกต่างจากขนมปังชนิดอื่น ๆ ตรงที่เป็นแป้งชั้นบาง ๆ จำนวนมากเรียงซ้อนกัน โดยคั่นด้วยชั้นเนย ทำให้แต่ละชั้น แยกจากกัน และตัวขนมก็มีความหอมและฉ่ำ ครัวซองต์ที่ดีนั้น จะมีชั้นนอกที่กรอบ ขึ้นสีน้ำตาลสวย เมื่อใช้มือฉีก ชั้นนอกที่บางกรอบ ก็จะแตกออกเป็นเศษเล็กน้อย (คนฝรั่งเศสถึงขั้นเคยบอกเราว่า ครัวซองต์ ที่ดี ทานแล้วจะต้องเลอะเทอะแบบนี้แหละ) ชั้นในเป็นโพรงอากาศน้อยใหญ่ที่เกิดระหว่างชั้นแป้ง เนื้อเบา มีความหอมมันจากเนย จะกินกับกาแฟเป็นมื้อเช้าก็เก๋ หรือคู่กับการจิบชายามบ่ายก็ดี ครัวซองต์อีกแบบที่เห็นบ่อยคือที่ใส่ช็อกโกแลต ซึ่งจะถูกม้วนเป็นทรงกระบอกแทนจันทร์เสี้ยว และมีชื่อเรียกว่า ปัง โอ ช็อกโกลาต์ (pain au chocolat)

 

เป็นอย่างไรกันบ้าง กับ ขนมปัง ยอดนิยม ที่เรานำมาฝาก แค่อ่าน ก็หิวแล้วใช่ไหมล่ะ อิอิ

 

 

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

เค้กเบียร์ดำ อร่อย เท่ ทำก็ง่าย ทานเพลิน ไม่มึนเมา

เค้กชาจาย นุ่ม ละมุน อบอวล ด้วย กลิ่นเครื่องเทศ