Aug
สวัสดีครับชาวคนรักขนม หวานทุกคนวันนี้เรา จะมาพูดคุยกันเกี่ยวกับ ขนมที่บอกได้เลยว่า เป็นคนที่ใครๆหลายท่านคงจะชอบกินอย่างแน่นอน นั้นก็คือ ทาร์ตไข่ เพราะวันนี้เราจะมาเล่าเรื่องราว ของ ทาร์ตไข่ กันนั้นเองไปดูกันดีกว่า
ทาร์ตไข่ ถือได้ว่าเป็น ขนม ที่มีผู้คนให้ความสนใจมากมายเลยทีเดียว ด้วยความอร่อย และรสชาติ ที่เป็น เอกลักษณ์ มาพร้อมกับ ความหอม แป้งกรอบๆ และแถมด้วย เป็นขนมที่รับประทานง่าย ด้วยความเป็น ทาร์ต์ไข่ นั้นเป็นขนมที่ขิ้นไม่ใหญ่มา กำลังพอดีคำ ทำให้เป็น ขนมหวาน ท่านเล่น ที่ทำให้ใครๆ หลายๆ คนอดใจไม่ไหวกันเลยทีเดียว และแถมใน สมัยนี้ ทาร์ต์ไข่ ยังเป็น ขนมที่สามารถ หารับประทาน ได้ง่ายตามท้องตลาด ทั่วไป หรือ จะเป็น 7 – ELEVEN บ้างทีก็ยังมี ทาร์ตไข่ ขาย นั้นจึงทำให้ เป็น ขนม ที่ได้รับความนิยม อย่างกมาก ในตอนนี้นั้นเอง
ในเมื่อ วันนี้หัวเรื่องเรา พูดถึง ขนม ที่ทำให้ใครๆ หลง รักแล้ว นั้นก็คือ ทาร์ตไข่ งั้นวันนี้เราจะมาเล่า ประวัติ ให้ฟังกันว่า ทาร์ตไข่ นั้นมีประวัติความเป็นมา อย่างไร กว่าจะได้เป็นขนม ชนิดนี้ขึ้นมา เป็นยังไง เริ่มอยากรู้กันแล้วใช้ไหมครับ งั้น เราไปหาคำตอบ กันเลยดีกว่า
ต้นกำเนิด ทาร์ตไข่
ทาร์ตไข่ ถือเป็น ขนม ที่มีรสชาติ ที่อร่อย หวาน กรอบด้วยแป้ง อบจนกรอบแถมด้วย มีไข่อยู่บนหน้าขนม เพิ่มรสชาติ ให้กับ ขนม ชนิดนี้ได้เป็นอย่างดี แต่รู้หรือไม่ว่า ทาร์ตไข่ นั้น ที่จริงแล้ว เป็นภาษาโปรตุเกส ที่จะมีชื่อเรียก ว่า Pastel de nata ( พาสเทล เดอ นาตา ) สำหรับ วันที่ให้กำเนิด ของไอเจ้า ขนม หวานสุดอร่อย นี้ เราอาจจะเจาะจง หรือ บอกแน่ชัดไม่ได้เท่าไร แต่จากการที่ไปค้นหาประวัติ ของขนมชนิดนี้มา ไอเจ้า ทาร์ตไข่ นั้นเกิดขึ้นมาใน ราวๆ 300 กว่าปีที่แล้ว หรือ ปประมาณ ปี ค.ศ. 1700 ที่อยู่ใน ยุคสมัย แม่ชี และ พระในอารม ของประเทศ โปรตุเกส เพราะประเทศ โปรตุเกส นั้นมักจะนำ ไข่ขาวมาใช้ ในการทำแป้ง สำหรับ ลงในเสื้อผ้า ใช้ครับ ฟังไม่ผิด เค้าไม่เอามา ไข่ขาวมาทำขนม แต่เค้านำมาใส่เสื้อผ้า ซึ่งเป็นกระบวนการ หนึ่ง ของการซักผ้า และแน่นอนว่า เมื่อมีการ ใช้ไข่ขาว เป็นจำนวนมาก ก็ทำให้ ไข่แดง ถูกเหลือทิ้ง อย่างมากมาย ดังนั้น วิธีที่จะนำ ไข่แดง มาทำประโยชน์ ได้มากที่สุดก็คง จะเป็นการ นำเอามาทำ อาหาร หรือ ขนม นั้นเอง และเหมือนเป็นเหตุ บังเอิญ เพราะในยุค นั้นเป็น ยุค ที่ ธุรกิจ ของน้ำตาล ทรายกำลังมาแรง อย่างมาก เมื่อมีเวลาว่างแม่ชี และ พระสงฆ์ในวัด Jeronimos ในเขต เบเล็ม ของ เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส เลยค่อย ๆ คิดหาสูตรขนมที่ต้องใช้ไข่แดงเป็นส่วนประกอบขึ้นมา นั้นเอง
และในปี ค . ศ. 1820 หลักจาการ ที่ได้มีการ ปฏิวัติแบบเสรีนิยม รัฐบาล ของประเทศ โปรตุเกส นั้น ให้หยุดมีการจ่ายเงินให้กับ วัดต่างๆ ดังนั้น ทำให้ ในเมื่อ ไม่มีการจ่างเงิน ให้กับทางวัน ทำให้ ทางวัด หลายๆแห่งต้องปิดตัวลง และ แน่นอนว่า พระสงฆ์จากวัด Jeronimos ที่เมื่อก่อนทำ ทาร์ตไข่ เล่น ๆ หรือ ทำกินเองในวัดก็ต้องเริ่มหันมา ทำ ทาร์ตไข่ ออกมาขายเพื่อสร้างรายได้ ไปจุนเจือวัด เพื่อให้วัดยังคงดำเนินการได้ต่อไป นั้นเอง ด้วยความที่เขต เบเล็ม นั้นอยู่ไม่ไกลจากศูนย์กลางเมือง ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส นั้น จึงทำให้มีนัก ท่องเที่ยว มักจะแวะ มาผ่านทาง หรือ เยี่ยมเยือน เบเล็ม แบบเช้าเย็นกลับเพื่อมาชมความสวยงามของวัด Jeronimos และ ชมสถาปัตยกรรมอื่น ๆ ในเมือง และนั้นทำให้ เป็นจุด เริ่มต้น ที่มำให้ ทาร์ตไข่ นั้นเป็นที่รู้จัก ในหมู่ผู้คนที่เดินทาง มาเยี่ยมเยือน เบเล็ม ในวัด Jeronimos นั้นเอง และได้ ขยายเป็นที่รู้จัก กับไปทั่ว ในประเทศ โปรตุเกส
และต่อมา ทาร์ตไข่ ไม่ได้เป็นที่รู้จักกันแค่ ในประเทศ โปรตุเกส เพียงเท่านั้น แต่ได้ ไปขยายให้คนรู้จักไปเกือบทั่วโลก โดยเฉพาะ ฮ่องกง และ มาเก๊า การที่ ขนม สุดอร่อย อย่างทาร์ตไข่ ได้มีชื่อเสียง ใน เอเชีย นั้นก็เป็นเพราะ ฮ่องกง และ มาเก๊า เคยเป็นส่วนหนึ่ง ของประเทศ อาณานิคม ของยุโรป อย่าง อังกฤษ และ โปรตุเกส นั้นเอง
อ่านบทความเพิ่มเติม