Oct
มาการอง ( Macaron ) ขนมรูปร่างคล้ายแฮมเบอร์เกอร์ขนาดเล็ก สีสันน่ารับประทาน ที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากทั่วโลก รวมไปถึง ประเทศไทย ซึ่งวันนี้เราจะมาเจาะลึกถึง ต้นกำเนิด และการพัฒนาของมาการองกันครับ
มาการอง คืออะไร?
มาการอง ( Macaron ) เป็นขนมคุกกี้ชิ้นเล็ก ๆ มาประกอบกัน ตรงกลางมีไส้ต่าง ๆ เหมือนเป็นแฮมเบอร์เกอร์ขนาดจิ๋วที่มีรสหวาน โดยตัวฝานั้น ทำมาจากไข่ขาว ที่ตีกับน้ำตาลให้เกิดเป็น เมอแรงก์ (Meringue) จากนั้นนำมาผสมกับอัลมอนด์ป่น และน้ำตาลไอซิ่ง ก่อนนำไปอบให้ตัวเปลือกเกิดการยกตัวขึ้น ส่วนไส้ก็มีหลากหลายไส้ โดยจะมีไส้ที่เป็นที่นิยมอย่าง ไส้เลมอนบัตเตอร์ , ช็อกโกแลตกานาซ , บัตเตอร์ครีม , แยม เป็นต้น
ต้นกำเนิดของ มาการอง
มาการอง ( Macaron ) เป็นขนมที่เกิดขึ้น ในปี ค.ศ.1792 ในช่วง Frenchrevolution (ช่วงศตวรรษที่19 ) คิดค้นโดย แม่ชีจากคณะคาร์เมไลท์ ( Carmelite ) ของประเทศอิตาลี ได้หาวิธีทำขนม เพื่อหาเงินจ่ายค่าที่อยู่อาศัย โดยนำอัลมอนด์ ( Almond ) น้ำตาล และไข่ขาว มาตีรวมกัน และอบในเตาอบ และมีการพัฒนามาเรื่อย ๆ โดยนำ มาการองสองชิ้นมาประกอบกัน และตรงกลางมีไส้ จึงมีลักษณะคล้ายกับ แฮมเบอร์เกอร์ หรือแซนวิชขนาดเล็ก มาการองในช่วงแรกนี้ จะเสริฟ์มาการอง โดยไม่มีรสชาติ หรือไส้พิเศษ
มาการอง จึงเป็นขนมที่มีการถกเถียงกันมากมายถึงที่มา ว่าอาจเป็นขนมต้นกำเนิดที่มีต้นกำเนิดมาจาก ประเทศอิตาลี ก็ว่าได้ ซึ่งก่อนหน้านี้มีการกล่าวถึง ต้นกำเนิดของมาการองว่า หญิงสูงศักดิ์ชาวอิตาเลียน ชื่อว่า Catherine de Medici เป็นผู้นำขนมหวานชนิดนี้ มาเผยแพร่ฝรั่งเศส เนื่องจาก เธอได้แต่งงานกับพระเจ้าเฮนรีที่ 2 แห่งฝรั่งเศส ในปี ค.ศ. 1533 เธอได้นำพ่อครัวขนมชาวอิตาลี และมาการองรุ่นแรกๆ มาด้วย แต่อย่างไรแล้ว ข้อมูลนี้ยังไม่แน่ชัดมากนัก
รูปแบบของ มาการอง ( Macaron ) จึงมีอยู่ 2 รูปแบบ คือ ทั้งสไตล์อิตาลี และสไตล์ฝรั่งเศส โดย สไตล์อิตาลี ในการทำเมอแรงก์ ( Meringue ) จะตีไข่ขาว ร่วมกับ น้ำเชื่อมร้อนลงไปด้วย และใช้อัลมอนด์ที่ร่อนแล้ว และน้ำตาลไอซิ่งผสมกับไข่ขาวดิบ เพื่อทำเป็นครีมข้น จากนั้นจึงนำเมอแรงค์ และอัลมอนด์เพสต์เข้าด้วยกันเป็นส่วนผสมของมาการอง วิธีนี้มักจะถือว่า มีโครงสร้างที่แข็งแรงกว่า แต่ยังหวานกว่า และยังต้องใช้ เทอร์โมมิเตอร์ แบบลูกอม สำหรับน้ำเชื่อม
ส่วนสไตล์ฝรั่งเศส มีวิธีทำ คือ ไข่ขาวจะถูกตี จนเป็นเมอแรงก์ ( Meringue ) ที่มียอดแข็ง จากนั้น ร่อนอัลมอนด์ป่น และน้ำตาลผงลงไปอย่างช้าๆ จนได้ความสม่ำเสมอที่ต้องการ กระบวนการเคาะอากาศออก และการพับนี้ เรียกว่า มาการองเนส
รูปลักษณ์ของ มาการอง ในปัจจุบัน
การทำ มาการอง แบบในอดีต ไม่ว่าจะเป็น สไตล์อิตาลี หรือสไตล์ฝรั่งเศส ล้วนมีส่วนผสมเพียง ผงอัลมอนด์ ไข่ขาว และน้ำตาลเท่านั้น และรูปลักษณ์ของ มาการอง เป็นเพียงชิ้นเดียว ที่ดูเหมือนคุกกี้ด้วยซ้ำ จึงไม่ใช่รูปแบบเดียวกับที่เห็นในปัจจุบัน ก็คือ มาการอง 2 ชิ้น ประกบกัน และมีไส้ตรงกลาง
มาการองแบบที่เราเห็นกันในปัจจุบัน เกิดขึ้นในปีค.ศ. 1930 ที่มีการเสิร์ฟ มาการอง 2 แผ่นและสอดไส้บัตเตอร์ครีม แยม หรือกานาซ ซึ่งคิดค้นโดย Pierre Desfontaines ผู้ก่อตั้งร้านเบเกอรี่ ลาดูเร่ ( LADURÉE ) ร้านเบเกอรี่สุดหรูของฝรั่งเศส จึงทำให้ ได้รูปลักษณ์ของ มาการอง ตามที่เราเห็นกันในปัจจุบัน และกลายเป็นสัญลักษณ์ของฝรั่งเศส อีกด้วย
เดิมทีร้าน LADURÉE ได้ทำ มาการอง เพียงแค่ 4 รสชาติ ได้แก่ ช็อกโกแลต , กาแฟ , วานิลลา และอัลมอนด์ ต่อมาทายาทเดิมของร้าน LADURÉE ได้ขายกิจการให้กับ Francis Holder และในเวลาต่อมา ได้ส่งต่อกิจการให้กับ David Holder ลูกชายคนโตของเขา เดวิดและทีม จึงได้คิดค้น เพิ่มรสชาติและสูตรในการทำมาการองแบบใหม่เรื่อย ๆ จนทำให้มีสีสันสะดุดตา น่ารับประทานเป็นอย่างมาก
ด้วยเหตุเหล่านี้ จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า หน้าตาของ มาการอง ( Macaron ) ที่เราเห็นกัน ในปัจจุบันนี้ ที่มีลักษณะเป็น 2 แผ่น ประกบกัน มีไส้ตรงกลาง และมีสีสันสวยงามหลากหลายนั้น ล้วนมีการพัฒนามาจากร้าน LADURÉE ร้านเบเกอรี่ชื่อดังของฝรั่งเศส นั่นเอง
อ่านบทความเพิ่มเติม