Jun
เพื่อน ๆ คนไหนที่ได้ลงมือทำ เบเกอรี่ ( Bakery ) แล้วต้องมีการอบใช่ไหมล่ะคะ แล้วมี เตาอบไฟฟ้า ( Electric Oven ) ติดบ้านกันไว้หรือยังคะถ้ายัง วันนี้เราจึงจะมาแนะนำการเลือกซื้อ เตาอบไฟฟ้า ( Electric Oven ) สำหรับ เบเกอรี่ ( Bakery )
วันนี้เราจะมา ทำความรู้จักกับ เตาอบไฟฟ้า ( Electric Oven ) กันก่อนค่ะ เตาอบไฟฟ้า ( Electric Oven ) ได้รับการออกแบบ และผลิตขึ้นมา เพื่อใช้แทน เตาอบ ( Oven ) แบบดั้งเดิม คือ เตาอบ ( Oven ) ที่ใช้ถ่านฟืน หรือแก๊สธรรมชาติ เป็นเชื้อเพลิง หลักการทำงานของ เตาอบไฟฟ้า ( Electric Oven ) คือ การทำให้อาหารสุก โดยการแปลงพลังงานไฟฟ้า เป็นพลังงานความร้อน ใช้วิธีการแผ่รังสีความร้อน ผ่านขดลวดความร้อน หรือแท่งฉนวน หุ้มปิดด้วยวัสดุ พาความร้อน หรือเป็นลักษณะ คล้ายแท่งแก้วเซรามิค ( Ceramic ) โดยเป็นการแผ่ความร้อน จากพื้นผิวอาหาร เข้าสู่ศูนย์กลาง ทำให้อาหารสุกได้ทั่วถึง ต่อไปเรามาดูกันว่า เตาอบไฟฟ้า ( Electric Oven ) มีกี่ประเภท มีวิธีการเลือกซื้ออย่างไร ให้ตรงตามความต้องการ และใช้ประโยชน์ ให้เกิดประสิทธิภาพ สูงสุดกันค่ะ
เตาอบไฟฟ้า ( Electric Oven ) แบ่งออกเป็น 2 ประเภทดังนี้
1. เตาอบไฟฟ้า ( Electric Oven ) แบบตั้งโต๊ะ
เตาอบประเภทนี้ ส่วนใหญ่ จะทำงานด้วย ระบบไฟฟ้า มีขนาดเล็ก เคลื่อนย้ายได้ง่าย จึงสะดวก ต่อการใช้งาน ไม่ต้องวุ่นวาย เรื่องการติดตั้ง ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน เพียงแค่ตั้งไว้ บนเคาน์เตอร์ในห้องครัว เสียบปลั๊ก ก็ใช้งานได้ทันที
มีให้เลือก หลายขนาด ตั้งแต่ 9 ลิตร ไปจนถึง 90 ลิตร เลือกใช้งาน ตามฟังก์ชัน ไฟได้ เช่น ไฟบน ไฟล่าง ไฟบน และล่าง เพื่อให้ตรงกับเมนู ที่ต้องการอบ แต่มีข้อจํากัดเรื่อง การกระจายความร้อน ที่ไม่ทั่วถึงทั้งเตา จึงต้องใช้การลองทำ อาหาร หรือ เบเกอรี่ ( Bakery ) หลาย ๆ ครั้ง และลองสังเกต ผลลัพธ์ ที่ได้ว่าเป็นอย่างไร
2. เตาอบไฟฟ้า ( Electric Oven ) แบบฝัง บิลท์อิน ( Built in )
เป็น เตาอบไฟฟ้า ( Electric Oven ) ที่ออกแบบมา อย่างสวยงาม ไม่เกะกะพื้นที่ ในห้องครัว การติดตั้งเข้าไป ในช่องที่ทำไว้ สำหรับเตาอบประเภทนี้อยู่แล้ว สามารถควบคุม อุณหภูมิ ได้อย่างแม่นยำ การกระจายความร้อน ได้อย่างทั่วถึง มีฟังชั่นการใช้งาน ที่หลากหลาย แต่มีข้อจำกัด ของราคา ที่ค่อนข้างสูง ต่อไปเรามาดูวิธีการ เลือกซื้อ เตาอบไฟฟ้า ( Electric Oven ) ควรเลือกอย่างไร เพื่อให้ตรงกับ การใช้งาน
วิธีเลือกซื้อ เตาอบไฟฟ้า ( Electric Oven )
1. ขนาด และความจุ ของเตาอบ เบเกอรี่ ( Bakery ) เนื่องจากมีทั้งขนาดเล็ก และใหญ่ ควรถามตัวเองก่อนว่า ต้องการทำในปริมาณ มาก น้อย แค่ไหน ถ้าไม่ได้เปิดร้าน เพื่อทำขาย เป็นจำนวนมากต่อวัน ใช้แค่เตาอบ ขนาดเล็ก ก็เพียงพอ
2. พิจารณา โครงสร้าง ความแข็งแรง ทนทาน ผลิตจากวัสดุ ที่อาจก่อให้เกิด สนิมหรือไม่
3. การควบคุมอุณหภูมิ เป็นสิ่งสำคัญ คือ ต้องมีตัวควบคุม อุณหภูมิความร้อน ( เทอร์โมสตาร์ท ) เพราะเวลา เปิด / ปิด ประตูเตาอบ เบเกอรี่ ( Bakery ) ทุกครั้ง จะเป็นการส่งผลกระทบ ต่ออุณหภูมิภายใน ซึ่งเตาอบที่มี เทอร์โมสตาร์ท ในตัว ราคาค่อนข้างสูง ดังนั้น บางคนอาจจะ ใช้วิธีซื้อ ต่างหากทีหลัง แล้วนำมาแขวน ด้านในเตาอบ
4. มีวิธีการใช้งานง่าย ที่ไม่ต้องมีกรรมวิธี ที่ยุ่งยาก อะไรมากมาย เช่น เลือกเปิด ไฟบน อย่างเดียว ไฟล่าง อย่างเดียว เปิดไฟบน กับไฟล่าง พร้อมกันได้ ตั้งเวลาได้ เป็นต้น
5. มีราคาเหมาะสม กับงบประมาณ ที่ตั้งไว้ ความจำเป็น ในการใช้งาน และราคา ก็ต้องเหมาะสม กับคุณภาพด้วย
6. มีใบรับประกัน คุณภาพสินค้า จากร้านค้า และมีศูนย์บริการ หรือตัวแทน จำหน่าย เพื่อที่ว่าเราจะได้รับ ความสะดวก ในบริการ หลังการขาย
อ่านบทความเพิ่มเติม