M.K. Unigroup Corporation

How to เก็บวัตถุดิบ เบเกอรี่ และ ชนิดของ เบเกอรี่

admin01
mkunigroup

เคยกันไหมคะ เมื่อซื้อวัตถุดิบมาทำขนมแล้วเหลือ แต่ไม่รู้วิธีเก็บรักษา หรือ เบเกอรี่ ( Bakery ) ต่าง ๆ ทานไม่หมดก็ต้องทิ้ง เพราะเก็บรักษาไม่ถูกวิธี วันนี้เราจึงนำ How to เก็บวัตถุดิบ เบเกอรี่ และ ชนิดของ เบเกอรี่ มาฝาก

 

     How to เก็บวัตถุดิบ เบเกอรี่ ( Bakery )

1. แป้งชนิดต่าง ๆ  เช่น แป้งเค้ก แป้งขนมปัง ฯลฯ ถ้าปลอดจากแมลงรบกวนจะมีคุณภาพดี และเก็บได้นานถึง 5 เดือน โดยเก็บในห้องที่สะอาด มีอากาศถ่ายเทดี ปราศจากกลิ่น มีอุณหภูมิ 68 - 72 องศสฟาเรนไฮต์ และมีความชื้นสัมพัทธ์ 55 - 65 % แป้งที่มีตัวแมลงอยู่จะต้องแยกนำออกมาทิ้งทันที

2. ยีสต์ เป็ ส่วนผสมที่เสียได้ง่าย ควรเก็บในที่แห้ง ไม่ให้สัมผัสโดยตรงกับแสงแดด และความชื้น ถ้าไม่เก็บในตู้เย็นควรเก็บในที่มีอุณหภูมิไม่สูงกว่า 90 องศาฟาเรนไฮต์ ภายใต้สภาพเช่นนี้ ยีสต์แห้งจะมีอายุการเก็บได้อย่างน้อยที่สุด 1 เดือน หรือนานกว่านี้ได้

3. น้ำตาล ทั้งน้ำตาลทรายขาว และน้ำตาลทรายแดงเป็นตัวดูดความชื้น จะต้องนำออกจากถุงใส่กล่องพลาสติก หรือแก้ว มิฉะนั้นแล้วน้ำตาลจะดูดความชื้นจากอากาศจนถึงจุดที่มันแฉะ ซึ่งพวกจุลินทรีย์จะเจริญเติบโตได้ดี ทำให้น้ำตาลนั้นมีรสเปรี้ยว สำหรับน้ำตาลละเอียด หรือน้ำตาลไอซิ่ง เมื่อไม่ใช้จะต้องเก็บไว้ในที่แห้ง เพื่อป้องกันการจับตัวเป็นก้อน อย่าใช้ภาชนะที่เป็นโลหะเพราะอาจจะเกิดสนิมได้

4. ไขมัน และน้ำมัน ไขมันจากพืชสามารถเก็บได้ในอุณหภูมิห้องนาน 2-3 เดือน ถ้าต้องการเก็บให้ได้นานกว่านี้ต้องเก็บในตู้เย็น น้ำมันหมูชนิดแข็งควรเก็บในตู้เย็น โดยใส่ภาชนะบรรจุปิดฝาให้สนิท หรือเก็บในห้องธรรมดาก็ได้ น้ำมันสลัดหรือน้ำมันมะกอกจะมีกลิ่นหืนได้ง่ายหลังจากเปิดฝาแล้ว สำหรับไขมันพืช นอกจากจะเก็บในตู้เย็นแล้ว ไม่ควรเก็บไว้ใกล้สิ่งที่ให้กลิ่น เพราะไขมันนั้นสามารถดูดกลิ่นแปลกปลอมเข้าไว้ได้ง่ายและรวดเร็ว ศัตรูตัวสำคัญของไขมันก็คือแสง อากาศ น้ำ ความร้อน อุณหภูมิสูง ๆ และโลหะ เหล่านี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ไขมันมีกลิ่นหืนได้ง่าย

5. ไข่  ไข่สดควรเก็บในช่องเก็บไข่ของตู้เย็น โดยให้ส่วนกว้างของไข่อยู่ด้านบนจะเก็บได้นานถึง 5 สัปดาห์ ไข่สดจะสูญเสียความชื้น และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตามอายุของไข่ ไข่มักจะดูดเอากลิ่นจากตู้เย็นเอาไว้ และจะมีกลิ่นมากถ้าไม่เก็บไว้ในช่อง ไข่ขาวที่แยกออกจะเก็บได้นานเป็นสัปดาห์ ถ้าเก็บในตู้เย็น และใส่ภาชนะแก้วที่ปิดฝาสนิท ไม่ควรเก็บไข่ไว้นาน แม้จะเก็บในตู้เย็นก็ตาม เพราะบัคเตรีอาจเกิดขึ้นทำให้อาหารเป็นพิษได้

6. นม นมสด หรือหางนมควรเก็บไว้ในตู้เย็น เมื่อไม่ใช้แล้ว ทั้งนี้เพื่อป้องกันการบูดเนื่องจากกรดแลคติกจะทำให้นมเปรี้ยว สำหรับนมระเหยนั้นไม่เป็นปัญหาเพราะนมบรรจุกระป๋องนั้น ได้ผ่านกรรมวิธีการฆ่าเชื้อแล้ว แต่ก็ควรระวังในเรื่องกระป๋องบวม ซึ่งเกิดจากนมเสีย นมผงควรเก็บในที่เย็น และแห้ง ปิดฝาให้สนิท เนื่องจากนมผงนั้นมีความชื้นอยู่น้อย จึงดูดเอาความชื้นจากอากาศเข้าไว้ทำให้จับตัวกันเป็นก้อน

7. เครื่องเทศ และผงฟู ควรเก็บในที่เย็น แห้ง และปิดฝาให้สนิท สำหรับกระป๋องบรรจุจะต้องไม่เป็นสนิม และจะต้องสะอาด

 

How to เก็บ เบเกอรี่ ( Bakery )

1. วิธีเก็บเค้ก

     เรียกได้ว่าเป็นของโปรดของใครหลายคนโดยเฉพาะสาว ๆ เพราะนอกจากหน้าตาน่าทานแล้วยังรสชาติกลมกล่อมจนใคร ๆ ต้องติดใจ โดยหากจัดเก็บเค้กในตู้เย็นจะสามารถเก็บได้นาน 5 วัน แต่หากห่อด้วยฟิล์มพลาสติกอีกชั้นก่อนนำแช่แข็งสามารถเก็บได้นาน 1-2 เดือน ในขณะที่เค้กผลไม้ที่มีเหล้า ถั่ว และผลไม้แห้งเป็นส่วนผสมสามารถเก็บได้นานหลายเดือน

2. วิธีเก็บบราวนี่

     อีกหนึ่งของโปรดสำหรับคนรักช็อกโกแลต เพราะส่วนใหญ่อัดแน่นด้วยรสชาติช็อกโกแลตเข้มข้น สำหรับบราวนี่สามารถเก็บไว้รับประทานได้นาน 1 – 30 วันเลยทีเดียว สามารถเก็บรักษาเพียงตั้งไว้ในอุณหภูมิห้องจะสามารถเก็บได้นาน 1-3 วัน แต่หากเลือกเก็บโดยการแช่ตู้เย็นจะอยู่ได้ 7 วัน และหากเก็บรักษาโดยการแช่แข็งจะอยู่ได้นาน 1 เดือน ทั้งนี้อย่าลืมห่อฟิล์มพลาสติกก่อนนำเข้าตู้เย็นเสมอ

3. วิธีเก็บขนมปัง

     เชื่อว่าหลายคนอาจเจอปัญหาซื้อขนมปังมาก้อนใหญ่แต่รับประทานไม่หมดในครั้งเดียว ทำให้ต้องหาวิธีเก็บรักษา ซึ่งโดยส่วนใหญ่ขนมปังมักมาพร้อมวันหมดอายุระบุบนห่ออยู่แล้ว แต่หากเป็นขนมปังมีไส้ เช่น ขนมปังเนยสด ขนมปังลูกเกด หรือขนมปังไส้อื่น ๆ หลายคนน่าจะเลือกเก็บโดยการนำเข้าตู้เย็น ซึ่งเป็นวิธีที่ผิดเพราะทำให้ขนมปังแข็งตัว วิธีที่ถูกต้องให้นำฟิล์มพลาสติกห่อขนมปังจากนั้นนำแช่แข็ง เมื่อต้องการทานเมื่อไหร่เพียงนำมาอุ่นก็ได้รสชาติอร่อยเหมือนเดิม

4. วิธีเก็บทาร์ตไข่

     เบเกอรี่ ( Bakery ) ยอดนิยมสำหรับคนชอบรสชาติหวานมันกลมกล่อม จุดเด่น คือ ความกรอบนอกนุ่มใน หยิบมาทานได้แบบไม่มีเบื่อ โดยเจ้า เบเกอรี่ ( Bakery ) ชนิดนี้หากวางไว้ในอุณหภูมิห้องสามารถเก็บได้ 1-2 วัน แต่หากนำแช่ตู้เย็นจะเก็บรักษาได้ 3-4 วัน แนะนำว่าก่อนรับประทานอีกครั้งให้นำมาอุ่นร้อนก่อนเสมอ

 

       นอกจากการจัดเก็บเค้ก และ เบเกอรี่ ( Bakery ) อย่างถูกต้องจะช่วยยืดอายุขนมอร่อย ๆ ได้แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือการเลือกบริษัทขนส่งขนม เค้ก เบเกอรี่ ( Bakery ) ที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดส่งอาหาร และ เบเกอรี่ ( Bakery ) โดยเฉพาะ เพราะการจัดส่งที่รวดเร็วทันใจ และถูกขนส่งอย่างถูกต้องจะช่วยให้รสชาติขนม และ เบเกอรี่ ( Bakery ) อร่อยเหมือนเพิ่งทำเสร็จใหม่ ๆ ที่สำคัญยังทำให้ขนมหน้าตาน่ารับประทานอีกด้วย

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

เทคนิคทำ เบเกอรี่ ให้สวย และน่าทาน

ทำไมต้องเรียก โฮมเมด เบเกอรี่ ( Homemade Bakery )