ประเภทต่างๆ ของ เบเกอรี่ มีอะไรบ้างนะ ?

เพื่อน ๆ หลายคน อาจจะสงสัย ว่า เบเกอรี่ ที่เราทาน กันในปัจจุบันนี้ มีอะไรบ้าง วันนี้ เลยขอพาทุกท่าน ไปรู้จัก กับ ประเภทต่าง ๆ ของ เบเกอรี่ ว่า มีอะไรบ้างนะ จะได้เรียก ได้อย่างถูกต้อง และรู้จัก เบเกอรี่ เหล่านั้น ได้มากขึ้นด้วยค่ะ

 

ถ้าพร้อมแล้ว ก็ไปทำความรู้จัก เกี่ยวกับประเภทต่าง ๆ ของเบเกอรรี่กันค่า ซึ่ง เบเกอรี่ นั้นก็ แบ่งออกเป็น 6 ประเภท ไปดูกันเลยค่ะ !

 

1. ขนมปัง ( Bread )

ขนมปังนั้น เป็นอาหาร ที่ได้ทำจากแป้งสาลี ที่นำผสมกับน้ำ, ยีสต์ หรือ ผงฟู นอกจากนี้ ก็ยังมีการใช้ส่วนผสมอื่นๆ เพื่อแต่งสี รสชาติ และกลิ่นด้วย ซึ่งแตกต่างกันไป ตามแต่ละประเภทของขนมปัง และในแต่ละประเทศที่ทำ โดยนำส่วนผสมแล้วตี ให้เข้ากันและนำไปอบ ขนมปัง ก็มีหลายประเภท อาทิ ขนมปังฝรั่งเศส, ขนมปังแซนด์วิช, ขนมปังหวาน

 

ขนมปังนั้น ก็สามารถทานได้เลย ซึ่งโดยปกติจะทานกับเนย, เนยถั่ว, แยม, เยลลี่, แยมส้ม, น้ำผึ้ง หรือทำเป็นแซนวิชก็ตามแต่ความชอบ ขนมปังนั้นสามารถนำไปอบหรือปิ้งได้ จะเสิร์ฟแบบร้อนหรือเย็นก็ได้ ขนมปังนั้นก็ควรที่จะเก็บไว้ในกล่องเก็บขนมปังเพื่อรักษาความสดใหม่ จริง ๆ แล้ว ขนมปัง สามารถขึ้นราได้ง่ายในอุณหภูมิเย็น

 

ขนมปังนั้น ก็ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์หลัก ของเบเกอรี่ที่นิยม และเป็นอาหารหลัก ๆ ของชาวตะวันตก ที่แบ่งตามปริมาณไขมัน ได้ 4 กลุ่ม คือ

1.1 ไขมันต่ำ 0 – 3% อาทิ ขนมปังฝรั่งเศส, ฮาร์ดโรล ข้าวไรย์ และขนมปังผิวแข็งต่าง ๆ

1.2 ไขมัน 4 – 8 % อาทิ ขนมปังแซนวิส, อังกฤษ, โฮลวีท, แฮมเบอร์เกอร์บัน, ฮอทดอกบัน, ขาไก่

1.3 ไขมัน 9 – 15 % อาทิ ขนมปังไส้ต่าง ๆ, ขนมปังเปิดหน้า, โดนัทยีสท์

1.4 ไขมันสูง > 15% อาทิ ขนมปังหวานต่าง ๆ, ลูกเกด, ผลไม้, มะพร้าว, เนยสด

 

 

2. เค้ก ( Cake )

เป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มที่ 2 ที่นิยมทานกัน เป็นอาหารว่าง มีรูปแบบของการตกแต่งสีสัน และมีหลากหลายชนิดมาก ๆ สามารถสร้างสรรค์ได้หลายแบบตามต้องการ แบ่งออกได้ 3 แบบ คือ

 

- สปันจ์เค้ก เป็นเค้กที่มีองค์ประกอบหลัก ๆ 3 อย่าง คือ ไข่, น้ำตาล, แป้ง เค้กที่ขึ้น ด้วยไข่ อาศัยการตีบนอากาศ อาทิ ขนมไข่, เค้กโรล, บัตเตอร์สปันจ์เค้ก

 

- บัตเตอร์เค้ก เค้กที่มีไขมัน เพิ่มขึ้นมาอีกอย่างหนึ่ง ที่ช่วยให้เค้กมีความชุ่มฉ่ำขึ้น แบ่งออกตามวิธีทำได้หลากหลายวิธี คือ แบบตีครีม (Creaming Method), แบบ 2 ขั้นตอน (Flour Better Method), แบบเบลนดิ้ง (Blending Method), แบบขั้นตอนเดียว (All – in Method), แบบบัตเตอร์สปันจ์ (Butter Sponge Method)

 

- ชิฟฟอนเค้ก เป็นเค้ก ที่ได้ประยุกต์จาก 2 แบบแรก โดยการแยกไข่แดง และไข่ขาว ลักษณะเค้ก มีเนื้อเบา ฟู นุ่ม แต่อายุการเก็บจะสั้นมาก ๆ

 

ซึ่งเค้กก็สามารถเรียกชื่อได้หลายแบบ ตามองค์ประกอบ อาทิ บัตเตอร์เค้กรสต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เนย, กาแฟ, ช็อกโกแลต, ใบเตย, มอคค่า เป็นต้น หรือ ขนมไข่, แยมโรล, ครีมโรล, ชิฟฟอนเค้ก, คัสตาดเค้ก, อัฟไซด์ดาวน์เค้ก, แฟนซีเค้ก, เค้กชอคโกแลต, บราวนี่, เค้กกล้วยหอม เค้กหน้ามะพร้าว, เค้กผลไม้, เค้กหน้าฝอยทอง, เค้กท๊อฟฟี่, เค้กเผือก, มาม่อน, เค้กเม็ดแตง เป็นต้น

 

3. พายชั้น ( Puff Pastry )

พายนั้น เป็นขนมอบซึ่งขึ้นจะมีลักษณะเป็นชั้น ๆ ที่เกิดจากชั้นของเนย ที่แทรกตัวอยู่ในชั้นของแป้ง เมื่ออบด้วยอุณหภูมิสูง ๆ ก็จะเกิดแรงดันไอน้ำ ที่ทำให้ขนมพองตัวขึ้น สิ่งที่สำคัญในการทำพายชั้น ก็คือ เพรสตรี้มาร์การรีน ซึ่งจะมีคุณสมบัติพิเศษ เรียกว่า plasticity ทำให้เป็นแผ่นบาง ๆ ได้นั่นเอง ขนมอบประเภทนี้ ก็มีทั้งไส้คาวและหวาน และทำรูปร่างได้หลาย ๆ แบบตามใจชอบ ดังเช่น พายไก่, พายเนื้อล พายไส้กรอก, พายหมูแดง, พายสัปปะรด, พายมะพร้าว ฯลฯ

 

4. เดนนิส/ครัวซอง ( Danish / Croissant )

เป็นขนมอบที่นำเอาขนมปังกับพายชั้น มาประยุกต์เข้าด้วยกัน ดังนั้นลักษณะของขนมจะขึ้นด้วยยีสต์และชั้นของเนยที่อยู่ข้างในคล้ายๆ รังผึ้ง สามารถทำได้หลายรูปแบบ และไส้ต่างๆ กัน

 

5. ชอร์ตโด, คุกกี้, พายร่วน และทาร์ต ( Short Dough, Cookies, Pies & Tarts )

ซึ่งเป็นกลุ่มขนม ที่มีลักษณะของแป้ง ที่คล้ายคลึงกัน คือ เนื้อแป้งจะร่วน และมีความกรอบ

5.1 ชอร์ตโด โดยส่วนใหญ่ จะใช้ประกอบกับ ขนมชนิดอื่นๆ อย่างเช่น รองชั้นล่างเค้ก

5.2  คุกกี้ แบ่งได้ 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่

- คุกกี้บีบ (Press Cookies) ลักษณะจะฟูเบา อาศัยการตีขึ้นฟูของเนย และน้ำตาล อาทิ คุกกี้เนย, กาแฟ

- คุกกี้แช่เย็น (Frozen Cookies) ลักษณะจะกรอบแข็ง นิยมเติมถั่ว, ผลไม้แห้งต่าง ๆ ผสมลงไปด้วย เช่น คุกกี้ถั่ว, คุกกี้ผลไม้, คุกกี้แฟนซี เป็นต้น

- คุกกี้หยอด (Drop Cookies) ลักษณะคุกกี้จะแบน, กรอบ, หวาน เช่น คุกกี้เนยแข็ง, คุกกี้อัลมอนด์

5.3 พายร่วน / ทาร์ต จะมีแบบหน้าเปิด และหน้าปิด ปกติพายจะมีชิ้นใหญ่ ส่วนทาร์ต จะมีชิ้นเล็กและไส้หวาน

 

 

6. ชูเพสต์ / เอแคร์ ( Choux paste / Eclair )

ซึ่งเป็นขนมอบที่มีลักษณะเป็นโพรงภายใน เกิดจากการอบมีแรงดันไอน้ำ มีส่วนผสมของ แป้ง, ไขมัน, น้ำ, ไข่ ที่ทำให้แป้งสุกตัวก่อนอบ มีหลายรูปแบบ และไส้หลากหลายชนิด

 

และนี่ก็เป็น ประเภทต่าง ๆ ของ เบเกอรี่ ที่เรา ได้นำมาฝากทุก ๆ คนค่ะ

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

12 อุปกรณ์ ทำเบเกอรี่ ที่ต้องมีติดครัว

เบเกอรี่ ทำไมต้องมียีสต์