วิธีการทำ ขนมบัวลอย ขนมไทยดั้งเดิม

วันนี้ mkunigroup มีขั้นตอนการทำ ขนมบัวลอย ขนมไทยดั้งเดิม ที่อาจจะหากินยากซักหน่อย มาแนะนำสำหรับคนที่อยากทำ มามีขั้นตอนการทำที่ยากง่ายแค่ไหน มาดูกันเลย

 

ขนมบัวลอย เป็น ขนมไทยดั้งเดิม ของคนไทย รู้จักกันทั่วภูมิภาค แต่ละพื้นที่มีสูตร และเคล็ดลับที่แตกต่างกัน ใช้วัสดุธรรมชาติ ที่หาได้ในท้องถิ่น มาใช้เป็นส่วนผสม เช่น ใบเตย , มันเทศ , กุหลาบ หรือ ดอกอัญชัน มาคั้นน้ำผสมกับแป้ง ก็จะได้สีสวยน่ารับประทาน โดยในสมัยก่อน ก็จะนำไปทำบุญที่วัด และ นำมาขายควบคู่ไปกับอาหารพื้นเมือง ที่ขายประจำ ส่งผลให้รายได้จากการค้าเพิ่มขึ้น ปัจจุบัน คนทำบัวลอยไม่มากนัก เพราะเห็นว่าขั้นตอนยุ่งยาก เสียเวลา และหาซื้อได้ง่าย ตามท้องตลาด

 

ขนมบัวลอย ขนมงานมงคล แป้งเหนียวนุ่มหนึบหนับ หอมหวานกะทิ

การทำ ขนมบัวลอย น้ำกะทิ เนื้อแป้งนุ่ม เคี้ยวหนึบ นุ่มลิ้น ไม่ยาก เพราะทุกวันนี้มีตัวช่วยดี ๆ ในการทำ ขนมบัวลอย ทั้งส่วนผสม และขั้นตอน ทำให้การทำ ขนมมงคล ชนิดนี้เป็นเรื่องง่าย และสนุกมาก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับกิจกรรม ที่ทุกคนในครอบครัวสามารถทำกันได้ร่วมกัน

 

ส่วนผสมสำคัญของ ขนมบัวลอย

ส่วนผสม ขนมบัวลอย

1. แป้งข้าวเหนียว 2 ถ้วยตวง

2. แป้งสาคู 1 / 2 ถ้วย

3. ฟักทองสุก 1 ถ้วย

4. เผือกสุก 1 ถ้วย

5. น้ำใบเตยหอมเข้มข้น

6. มันเทศนึ่งสุก 1 ถ้วย

7. แป้งมัน

8. น้ำเปล่า

ส่วนผสม น้ำกะทิ ขนมบัวลอย

1. กะทิ 2 ถ้วย

2. น้ำตาลมะพร้าว 100 กรัม

3. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย

4. เกลือป่น 1 ช้อนชา

5. ไข่ไก่หรือไข่เป็ด เนื้อมะพร้าวอ่อน งาขาว ( ใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ )

ขั้นตอน การทำ ขนมบัวลอย

1. ร่อนแป้งข้าวเหนียว และแป้งสาคู เข้าด้วยกัน จากนั้นแบ่งแป้งที่ผสมแล้ว ออกเป็น 4 ส่วน ตามสีที่ต้องการผสม

2. นำมันเทศ เผือก ฟักทอง นึ่งจนสุก

3. เตรียมน้ำใบเตยเข้มข้น โดยการตัดใบเตยเป็นชิ้นเล็ก ๆ ผสมกับน้ำเล็กน้อย ปั่นใบเตยให้ละเอียดแล้วจึงกรองเอาเศษออก

4. นำมันเทศที่นึ่งแล้ว มาบดให้ละเอียด แล้วค่อย ๆ เทแป้งที่เตรียมไว้ลงไป นวดแป้งและเนื้อมันเทศเข้าด้วยกัน ตามสัดส่วน ใช้ 2:1 เช่น เนื้อมันเทศ 1 ถ้วยตวง ใช้แป้งประมาณ 1/2 ถ้วยตวง

5. ขณะนวดเนื้อมันเทศและแป้ง ถ้ารู้สึกว่าแป้งแห้งแล้ว ให้เติมน้ำทีละน้อย จนกว่าจะนวดได้ที่

6. ทำเช่นเดียวกันกับทั้งฟักทอง และเผือก

7. ผสมแป้งส่วนสุดท้ายกับน้ำใบเตยเข้มข้น ค่อย ๆ เทน้ำใบเตยหอมลงในถ้วยแป้งที่เหลือ นวดแป้งกับน้ำใบเตยหอมให้เข้ากัน หากรู้สึกว่าแป้งแห้ง ให้เติมน้ำทีละน้อย จนกว่าจะนวดได้ที่

8. ปั้นแป้งที่นวดแล้ว เป็นลูกกลมที่มีขนาดเท่ากัน โรยแป้งมันสำปะหลัง อย่างทั่วถึงเพื่อไม่ให้แป้งเกาะติดกัน โดยปั้นแป้งเขียวแยกไว้ เพราะผงสีเขียวเป็นผงบริสุทธิ์ ใช้เวลาในการต้มนานกว่าแป้งสีอื่น ๆ

9. หลังจากแป้งทั้งหมดเสร็จแล้ว ตั้งหม้อน้ำให้เดือด เอาแป้งบัวลอยเผือก ต้มฟักทอง และมันเทศ ขณะเดือดให้กวนต่อ เพื่อป้องกันไม่ให้เม็ดเกาะติดกัน คนจนเม็ดขึ้น ถือว่าสุก

10. นำตะแกรงร่อนแป้งที่ลอยขึ้นมา ตักเม็ดแป้งลงในน้ำเย็น เพื่อให้เม็ดแป้งแตก และไม่ให้สุกเกินไป

11. เมื่อเม็ดแป้งสีทั้งหมดสุกแล้ว ให้นำแป้งสีเขียวไปต้ม ทำเช่นเดียวกัน กับขั้นตอนที่เหลือ

ขั้นตอน การทำน้ำกะทิ ขนมบัวลอย

1. นำหัวกะทิใส่หม้อตั้งไฟ กะทิ อย่าปล่อยให้กะทิเดือด ถ้ามีเนื้อมะพร้าวให้ใส่เนื้อมะพร้าว ใส่น้ำตาล หรือน้ำเชื่อมที่เตรียมไว้

2. เมื่อกะทิร้อน ใส่เมล็ดบัวลอยลวกลงไป ตามด้วยไข่หวานต้ม ในส่วนของการต้มไข่หวานจะนำไข่ต้มในน้ำเชื่อม ห้ามต้มในกะทิ เพื่อให้กะทิขาวสวยเหมือนเดิม

3. ตั้งหม้อ บัวลอย ทิ้งไว้ครู่หนึ่ง ปิดไฟ ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟ เสร็จแล้ว

 

การทำ ขนมบัวลอย อาจใช้เวลานานกว่าเล็กน้อยในการทำแป้ง ซึ่งหากใครไม่มีเวลามาก ก็จะลดสีของแป้งบัวลอย ทิ้งไว้เพียง 1 - 2 สี ก็จะช่วยประหยัดเวลาใน ขั้นตอนการทำ ผงบัวลอยนี้ไปได้มาก ตอนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก สำหรับใครที่อยากทำ ขนมบัวลอย ด้วยตัวเองแล้วละ ใครที่สนใจบทความแบบนี้ ก็สามารถอ่านเพิ่มเติม จากเว็บไซต์ของเราได้เลย

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ขนมปัง ยอดนิยม ของ คนทั้งโลก มีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย

ขนมหวาน ฝรั่งเศส ที่น่ารู้ จะมีอะไรบ้างน้า